ไก่ชนพม่า ลีลาเด็ด เบอร์แข้งดีตีหนัก แผลดีตีคม ต้องที่นี่
คนเลี้ยงไก่หลายๆท่านอาจจะเคยได้ยินประโยคยอดฮิตที่ว่า “ไก่เก่งไม่เลือกที่เกิด” ซึ่งก็มีการถกเถียงกันบ้างว่าจริงหรือไม่จริงเกิดขึ้น บางท่านก็ตีความหมายที่ผิดเพี้ยนออกไป ซึ่งมันก็ถือเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมากสำหรับคำพูดนี้ แต่ถ้าจะให้ตอบว่าจริงหรือไม่จริง ก็ต้องตอบว่า จริง เพราะไก่จะเก่งจะเลี้ยงที่ไหนก็เก่งได้
ไก่ชนที่จะเก่งนั้นไม่ว่าจะเกิดที่ไหน ซุ้มใหญ่ฟาร์มดัง ซุ้มเล็กซุ้มน้อยหรือใต้ถุนบ้าน ก็สามารถเป็นไก่ที่เก่งได้ทั้งนั้น แต่ก็อย่าลืมว่าไก่จะเก่งก็ขึ้นอยู่กับเทือกเขาเหล่ากอที่มีความชัดเจน เขามีชั้นพ่อชั้นแม่หรือปู่ย่าตายายที่มีผลงานในสนามจริง เขามีการถ่ายทอดพันธุกรรมมาจากรุ่นสู่รุ่นอย่างชัดเจน ทำให้ผู้ที่พัฒนาต่อยอดไม่พลาด ไม่เสียเวลาเปล่า เพราะกว่าจะรู้ว่าไก่ตัวหนึ่งจะเก่งหรือไม่เก่งต้องใช้เวลา 8 – 12 เดือน
ฉะนั้นในการพัฒนาไม่ว่าจะเป็นจากซุ้มใหญ่ฟาร์มดังหรือซุ้มเล็กใต้ถุนบ้านก็ตาม ก็สามารถเพาะไก่เก่งออกมาได้เช่นกัน ขอแค่เขามีสายเลือดที่ชัดเจน มีเทือกเขาเหล่ากอที่ผลงานในสนามมาจริงๆ และเป็นสายเลือดแท้ก็จะทำให้ผู้พัฒนาเกิดความผิดพลาดน้อยที่สุด เราจะได้ลูกเพาะที่ใช้งานได้มากที่สุด คุ้มค่าที่สุด นี่จึงเป็นที่มาของคำว่า ไก่ชนเก่งไม่เลือกที่เกิด แต่ไม่ใช่ว่าจะจับตัวไหนก็ได้มาเลี้ยงแล้วมันจะเก่งกันทุกตัว หรือมีโอกาสเก่งกันทุกตัว เพราะการเพาะพัฒนาไม่ใช่ดูแค่สีสันความสวยงาม
แต่จะดูที่ลีลาชั้นเชิงสไตล์เอกลักษณ์ของเขา ดูส่วนประกอบต่างๆทั้งการเดินการยืน การบิน การกระโดด การเตะ ทุกอย่างล้วนเป็นส่วนประกอบที่สำคัญทั้งสิ้น มันเป็นเรื่องที่ลึกซึ้งมากจึงมีความจำเป็นที่ต้องรู้เหล่ากอที่ชัดเจน พ่อแม่มีสไตล์ที่คล้ายกันไหม มีผลงานในสนามจริงหรือเปล่า ตรงตามความต้องการของเราหรือไม่
ไก่จะเก่งไม่เลือกที่เกิดก็เป็นเรื่องที่จริง แต่เขาจะต้องเกิดจากเหล่ากอที่ดีด้วย ถ้าเราไปจับแบบมั่วๆมาไก่ก็มีโอกาสที่จะเก่งหรือไม่เก่งก็ได้ เพราะเรายังไม่เคยเห็นฝีมือของเขาหรือสายเลือดของเขา ความแน่นอนมันมีน้อยมันจะทำให้เราเสียเวลาได้ แต่ถ้าเราเลือกคัดไก่จากหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนมันก็จะทำให้เราเกิดความผิดพลาดที่น้อยลง การถ่ายทอดทางพันธุกรรมก็จะนิ่งกว่ากันเยอะ ไก่ชนจะเก่งถ้ามาจากเหล่ากอที่ดีเกิดที่ไหนก็เก่งได้