แม่พันธุ์พ่อพันธุ์ดี จ่ายลูกเก่งมีผลงาน ต้องไก่ชนพม่าที่นี่ห้ามพลาด
การเลี้ยงไก่ชนตั้งแต่สมัยก่อนที่สอนต่อๆกันมา หนึ่งอย่างที่ใช้ในการเลี้ยงก็คือการลงกระเบื้องไก่ ซึ่งการลงกระเบื้องไก่ก็ยังมีมาจนถึงปัจจุบันนี้ แต่การลงกระเบื้องก็มีคนลงกระเบื้องกันน้อยลงแล้ว นั่นก็เพราะวิวัฒนาการในการเลี้ยงไก่ก็เริ่มมีอะไรหลายๆอย่างที่แปลกใหม่เข้ามา มีตัวช่วยตัวเสริมอย่างอื่นเข้ามาเสริมเข้ามาทดแทนกันมากขึ้น บางคนจึงมองว่าการลงกระเบื้องไม่ค่อยจำเป็นแล้ว
การลงกระเบื้องไก่ชน คือ การเอาแผ่นกระเบื้องดินเผานำไปติดไฟให้ร้อนจากนั้นก็นำผ้าลงไปเช็ดให้ผ้าอุ่น แล้วนำมานั้นมาประคบที่ตัวไก่ ในสมัยก่อนจะลูบกระเบื้องไก่เพื่อให้ผิวไก่กร้านแดง เชื่อว่าจะมีความสด ความฟิต แต่ในปัจจุบันนี้ความนิยมลงกระเบื้องลดน้อยลง จะไม่ค่อยลงกระเบื้องเวลาเลี้ยง
แต่อาจจะมีบ้างหลังจากที่ไก่ตีเสร็จจะลงกระเบื้องเพื่อไล่ลิ่มเลือดที่ฟกช้ำตามตัวไก่ เพราะบางทีคนรีดออกให้ไม่หมดก็ใช้ความร้อนจากกระเบื้องช่วยไล่ เพราะถ้ามีเลือดเสียค้างอยู่ตามร่างกายก็อาจจะเกิดเป็นปรวดตามมาได้ ปัจจุบันจึงอาจจะมีใช้เฉพาะกับไก่ที่พึ่งชนเสร็จมาเท่านั้น
การลงกระเบื้องเป็นตัวช่วยหนึ่งในการรักษาเท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความแข็งแกร่ง แข็งแรงของไก่แต่อย่างใด มันเป็นเพียงการนำความร้อนมาสู่ตัวไก่เท่านั้นเอง อาจจะเป็นการสร้างความอบอุ่นให้ไก่หากไก่หนาวสั่น หรือเพื่อประคบเพื่อลดผิวหนังที่บอบช้ำให้เลือดที่คลั่งที่เสียอยู่สลายตัว ไม่ตกค้างซึ่งอาจเป็นสาเหตุของอาการอื่นตามมาได้นั่นเอง ที่ความนิยมลงกระเบื้องไก่ลดลงก็เนื่องจากว่า ในปัจจุบันนี้มียาที่ช่วยรักษาอาการอักเสบปาดเจ็บต่างมากขึ้น หาซื้อได้ง่าย รักษาเห็นผลได้รวดเร็วขึ้น สามารถให้ไก่ชนฟื้นตัวเร็วขึ้น
แต่ถ้าหากว่าใครอยากลงกระเบื้องไก่ระหว่างยกก็สามารถทำได้ แต่ควรลูบเพียงบางก็พอเพื่อให้เลือดไหวเวียนดีขึ้น ให้เขาสดชื้นขึ้นได้ และในช่วงที่เลี้ยงถ้าอยากฃลงกระเบื้องด้วยก็ทำได้เช่นกันแต่ก็ลูบพอเขาอุ่น พอให้เลือดไหวเวียนเช่นกัน แต่การลูบกระเบื้องไม่ได้ช่วยให้ไก่แข็งแกร่งแต่อย่างใด บางคนอาจจะมองว่าลงกระเบื้องแล้วผิวกร้าน
เมื่อผิวกร้านแล้วความต้านทานต่อแรงกระแทกก็จะดีขึ้น ไก่ก็จะมีความแกร่งมากขึ้น ซึ่งการลงกระเบื้องไก่ผิวเขาอาจจะกร้านขึ้นจริง แต่ผิวเขากร้านเพราะโดนความร้อนบ่อยเท่านั้น ไม่ได้ส่งผลต่อความแข็งแกร่งของร่างกายเลย ไก่เขาจะเก่ง จะอดทน จะแข็งแรง ก็ขึ้นอยู่ที่การฝึกซ้อม และที่สำคัญขึ้นอยู่ที่จิตใจของไก่ชนเอง